(William Perkin) | ในปี ค.ศ. 1856 วิเลี่ยม เพอร์คิน (William Perkin) ได้ค้นพบสีสังเคราะห์โดยบังเอิญจากการ พยายามสังเคราะห์ยาควินนิน เพื่อใช้รักษาโรคมาลาเรีย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถือเป็นยุคที่ 2 ของ สีย้อมผ้าซึ่งเป็นจุดสำคัญของการแบ่งแยกยุคสมัยของสีย้อมผ้าจากยุคสีย้อมธรรมชาติมาสู่ยุคสีย้อม สังเคราะห์ | |
| สืบเนื่องจากการค้นพบของ วิเลี่ยม เพอร์คิน ทำให้มีการคิดค้นสีชนิดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นประมาณ 500 กว่า ชนิดภายในปี ค.ศ.1900 โดยประเทศอังกฤษ เยอรมันนี และฝรั่งเศส เป็นประเทศ ที่มีการพัฒนาสี สังเคราะห์มากที่สุด ในยุคที่ 2 นี้ การใช้สีสังเคราะห์เป็นไปอย่างแพร่หลายจนแทนที่การใช้สีย้อม ธรรมชาติโดยสิ้นเชิง | ||
| สีย้อมสังเคราะห์สามารถใช้ย้อมเส้นใยที่ได้จากพืช (Cellulose) เช่น ฝ้าย และเส้นใยโปรตีนที่ได้ จากสัตว์ (Protein) เช่น ไหม และขนสัตว์ จนกระทั่งในช่วงทศวรรษ 1920 ได้มีการคิดค้นผ้าเส้นใย สังเคราะห์ขึ้น ซึ่งเป็นผลิตผลจากอุตสาหกรรมน้ำมัน เช่น ไนล่อน (Nylon) และ โพลิเอสเตอร์ (Polyester) สีย้อมสังเคราะห์ที่ใช้อยู่ในสมัยนั้นไม่สามารถย้อมเส้นใยสังเคราะห์ชนิดใหม่นี้ได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีการคิดค้นสีที่สามารถย้อมเส้นใยสังเคราะห์ได้ คือ สีดิสเพอร์ อะโซ (Disperse Azo) และใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้ โดยส่วนมากใช้ย้อมผ้าโพลิเอสเตอร์ | ||
| ช่วงทศวรรษ 1950 ถือเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดของการคิดค้นสีย้อมสังเคราะห์ เพราะเป็นช่วงที่ สีรีแอคทีฟ (Reactive Dye) ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งเป็นสีที่มีความยิดเกาะกับเส้นใยสูงโดยอาศัยพันธะ ทางเคมี ทำให้ได้ผลลัพธ์คือความคงทนของสีย้อม และสีที่สดใส |
เด็กหญิงจิตตินันท์ แซ่เห้ง เลขที่ 29 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/8 โครงการ SMAP โรงเรียนพิมานพิทยาสรรค์ จังหวัดสตูล
วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556
การพัฒนาของสีสังเคราะห์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น
(
Atom
)
(William Perkin)
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น